6 นโยบายสำคัญFirst day Donald Trump วันแรกหลังการรับตำแหน่ง สะดุ้งทั่วโลก

ไม่กี่ชั่วโมงหลังการสาบานตน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามยกเลิกคำสั่งของรัฐบาลไบเดน 78 ข้อ และนำสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงปารีส ประกาศสภาะวะฉุกเฉนด้านพลังงาน โดยพรุ่งนี้ (22-1-67) เวลาประมาณ 04:00 น. จะมีการลงนามในนโยบายเพิ่ม ทั่วโลกจับตานโยบายกำแพงภาษีที่ทรัมป์กล่าวไว้จะปรับภาษีนำเข้า 10% และ 60% จากจีน

1. TikTok ในสหรัฐอเมริกา เป็นเวลาอย่างน้อย 75 วัน โดยสหรัฐอเมริกาถือหุ้น 50% ในบริษัทร่วมทุน การทำเช่นนี้จะช่วยให้ TikTok รอดพ้นจากปัญหาต่างๆ และให้ TikTok ดำเนินการต่อไป (มุมมองหมี :คาดการณ์จะเป็นตัวกระตุ้นในการเจรจากับจีน เพื่อดูแน้วโน้มการเพิ่มภาษานำเข้าจากจีน 60%)

2. ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานระดับชาติ เนื่องจากเขามีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการผลิตฟอสซิล (ผลิตน้ำมัน)  “วิกฤตเงินเฟ้อเกิดจากการใช้จ่ายเกินตัวและราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ดังนั้น วันนี้ผมจึงจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ เราจะฝึกซ้อมอย่างหนัก” ทรัมป์กล่าวในการกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่ง ประธานาธิบดีให้คำมั่นระหว่างการหาเสียงว่าจะลดต้นทุนด้านพลังงานลงครึ่งหนึ่งภายในปีแรกของการบริหารงานของเขา” เพิกถอนการกระทำของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ห้ามการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในพื้นที่ขนาดใหญ่ของอาร์กติกและในน่านน้ำชายฝั่งของสหรัฐฯ (มุมมองหมี :ต้องการควบคุมราคาน้ำมัน เพื่อป้องกันเฟ้อ และเปิดทางให้ FED ได้ลดดอกเบี้ย)

3. ยกเลิกเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยรัฐบาลไบเดนในการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า บรรลุเป้าหมายภาคส่วนการผลิตไฟฟ้าปลอดคาร์บอน และบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ และการยกเลิกการสั่งบังคับใช้รถไฟฟ้าในบางรัฐ รวมถึงสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

4. ระงับให้ความช่วยเหลือต่างประเทศเป็นเวลา 90 วันเพื่อรอการประเมิน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกคำสั่งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ให้ระงับการให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาต่างประเทศเป็นเวลา 90 วัน ระหว่างรอการประเมินประสิทธิภาพและความสอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ

5. ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อจัดตั้งกรมประสิทธิภาพของรัฐบาล ซึ่งเป็นคณะที่ปรึกษาที่นำโดยอีลอน มัสก์ เพื่อทำหน้าที่ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของรัฐบาล

6. ทรัมป์สั่งให้สหรัฐเป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของดับเบิลยูเอชโอ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นำสหรัฐออกจากการเป็นสมาชิกดับเบิลยูเอชโอ เนื่องจากเป็นองค์กรที่ “ยังคงทำตัวเป็นภาระ และเรียกร้องเงินสนับสนุนจากสหรัฐอย่างไม่เป็นธรรม”