ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดบวก 32$ ที่ราคา 2049.070 หลังประกาศจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 3.4% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.2% ทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้นจากที่เคยคาดการณ์ว่าจะปรับลดในเดือนมีนาคม 2567 หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คงอัตราดอกเบี้ย 5.50% ในการประชุม 4 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งการที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะลดเบี้ยเป็นการคาดการณ์ของตลาด เราจะรู้จริงๆ คือการประชุม Federal Funds Rate ในเช้าวันที่ 1 ก.พ. 67 เวลา 02:00 น.
ในวันศุกร์ที่ 12 ม.ค. 67 สหรัฐฯ และอังกฤษทำการโจมตีทางอากาศทั่วเยเมนเพื่อตอบโต้กองกำลังฮูตีสำหรับการโจมตีการขนส่งในทะเลแดงที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เพื่อตอบโต้สงครามในฉนวนกาซา อิหร่านประณามการโจมตีดังกล่าว พร้อมเตือนว่าจะกระตุ้นให้เกิด “ความไม่มั่นคงในภูมิภาค” ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปทดสอบ Supply Zone บริเวณ 2063.397 – 2065.762 ก่อนที่ราคาจะกลับลงมาพักฐาน ด้านกองทุน SPDR ในวันศุกร์ที่ผ่านมาไม่มีการเคลือนไหวหลังจากที่เดือนนี้ขายออกไปแล้ว 15.27 ตัน ถือครองปัจจุบันอยู่ที่ 863.84 ตัน
Supply Zone 1: 2060.603 – 2065.621
Supply Zone 2: 2084.821- 2089.078
Demand Zone: 2013.416 – 2017.097