5 ขั้นตอน สู่เป้าหมายในตลาด Forex

หลายคนเข้าสู่ตลาด Forex เสียเงินกับการเติมพอร์ตไปก็เยอะยังไม่ประสบความสำเร็จซักที ถ้าเอาจริงๆ พี่หมีก็มองว่าตัวเองยังไม่ได้ประสบความสำเร็จในตลาด Forex แค่ทำกำไรเลี้ยงตัวเองได้ก็เท่านั้นเอง และที่สำคัญจากประสบการณ์คนสอน บทเรียนเดียวกัน คนสอนคนเดียวกัน แต่ไม่มีอะไรการันตีว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จ เอาเป็นว่าพี่หมีจะมาแชร์วิธีการของพี่หมีให้ละกันนะครับ

1.กำหนดเป้าหมาย แน่นอนครับร้อยทั้งร้อยทุกคนอยากได้กำไรทั้งนั้นถึงเข้ามาเทรด พี่หมีก็เคยเป็นแบบนั้นแต่ผลลัพธ์ที่ได้ คือ “ขาดทุน” พี่หมีจะบอกนักเรียนทุกคนเสมอก่อนจะคิดถึงกำไร ให้เราคิดว่าถ้าเราพลาด เราจะเสียอะไรไปบ้าง มันจะทำให้เรามีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น เพราะหลายคนฝันว่าจะรวยในวันเดียว เอาจริงๆ ถ้าเรามองกองทุนของไทย ในเดือนพฤษภาคม 2566 KKP SEMICON-H มีกำไรสูงสุดที่ 14.20% อันนี้คือ 1 เดือนนะครับ เพราะฉะนั้นการตั้งเป้าหมายของเราพยายามวางเป้าหมายในสิ่งที่เป็นไปได้ครับ ไม่ไกลเกินตัว และที่สำคัญเราต้องจำกัดความเสี่ยงที่จะเกิดให้ได้ หากวันไหนไม่ได้ตามเป้าก็ไม่เป็นไร เพราะบางครั้งสภาพตลาดก็ไม่เป็นใจ

2. หาวิธีการ เมื่อมีเป้าหมายแล้วเราก็ต้องหาวิธีการที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมาย ซึ่งในตลาด Forex ก็คือวิธีการเทรด สมัยนี้ถือว่าง่ายมากๆ มีหลายที่ให้ความรู้ผ่านหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Facebook หรือหนังสือให้เลือกครับ เลือกวิธีที่ถูกจริตกับเรา วิธีไหนที่เราชอบ เพราะแต่ละวิธีมีความแตกต่างกัน บางครั้งอยากเทรดสั้นเป็น Scalping Trade แต่ดันไปเรียนที่เค้าสอนเทรดแบบ Day Trade หรือ Swing Trade ซึ่งแบบนี้ก็ไม่เหมาะกับจริตของเรา สุดท้ายเราก็จะคิดว่าไม่ได้ผล สำหรับพี่หมีแบ่งความสำคัญของเทรดออกเป็น 3 ส่วน 1. เทคนิค 2. การบริหารพอร์ต 3. จิตวิทยาในการเทรด ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญ ส่วนเทคนิดก็จะแบ่งเป็น 4 ส่วน 1. Overview (ภาพรวมของโครงสร้างตลาด) 2. Trend (หาเทรดหลัก และเทรนรอง) 3. Momentum (แรงสนับสนุนในช่วงเวลานั้นๆ) 4. Tack Action (สัญญาณในการเข้าเทรด) กลุ่มพวกนี้เราเรียกว่า System Trading หรือว่าระบบในการเทรด หลายคนอาจจะมองว่ายุ่งยาก เรียนเยอะ แต่เรามองดีๆครับตลอดชีวิต ตั้งแต่อนุบาลจนจบมหาวิทยาลัย เป็นเวลา 19 ปี เรายังไม่รู้เลยเราจะทำอาชีพอะไร แต่นี้เราเรียนเทรดนะครับ เรามองเห็นภาพปลายทางแล้วด้วยซ้ำ ทำไมเราจะไม่ทุ่มเทกับมันละ

3.ลงมือทำ เมื่อมีเป้าหมาย และวิธีการ ขั้นตอนนี้สำคัญครับ คือการลงมือทำ เริ่มจากการทดลองจากบัญชี Cen ก่อนก็ได้ เราจะได้รู้ว่าที่เราเรียนมานั้น เวลาที่เอามาใช้ในตลาดจริงมันเป็นยังไง เราเอาความรู้ที่เรียนมาประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้องหรือเปล่า (โดยเฉพาะวิธีการเทรดที่มี System Trading อันนี้สำคัญครับ เราต้องเอาความรู้ทั้งหมดที่มีมาและยุกต์ใช้รวมกันให้ได้) หลายคนถามใช้ Demo ได้มั้ย ส่วนตัวพี่หมีไม่อยากให้ลองเทรด Demo เพราะเวลาเทรดจริง เงินจริง สภาพความกดดันที่มีต่อจิตใจแตกต่างกันครับ เทรดบัญชี Cen หรือเทรดใส่กระดาษได้ประโยชน์กว่า ลองเอาวิธีที่เรียนมาทำซ้ำใน ทุกสภาพตลาดจนกว่าเราจะเข้าใจ

4.แก้ปัญหา บางคนเก่งทฤษฎี แต่พอลงสนามจริงกับใช้ไม่ได้ อันนี้ละครับปัญหาโลกแตกทำให้หลายคนยอมแพ้กับวิธีการที่เรียนมา แรกๆพี่หมีก็งงครับว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายมาได้คำตอบครับ ว่าที่ผ่านมาเราท่องจำ ไม่สามารถเอามาประยุกต์รวมกันได้ หาให้เจอครับปัญหาในการเทรดที่ทำให้เราเสียเงินคืออะไร ตามหลักจิตวิทยาง่ายๆ เลยครับ ถ้าเราหาความผิดพลาดเจอ และยอมรับมันนั้นแสดงว่าเรามาถูกทางละ เพราะถ้าเราไม่ยอมรับผิด นั้นแสดงว่าเราโทษอย่างอื่น ไม่ยอมรับว่ามันเกิดจากตัวเรา หาให้เจอครับ และหาวิธีปรับปรุงแก้ไข พี่หมียังทำข้อนี้เป็นประจำ หลังออกตลาดจะดู  Order ทั้งวันที่ออกว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหน เกิดจากอะไร จะแก้ไขมันยังไง แล้วคืนนี้คาดว่ากราฟจะจบแบบไหน พรุ่งนี้เราจะเล่นยังไง แล้วตอนเช้ามาเราก็มาวางแผนการเทรดอีกรอบครับ ทำแบบนี้ซ้ำๆ ทุกวัน

5.ทำซ้ำ เมื่อเราเข้าใจวิธีการเทรด หรือหาจังหวะ จริตในการเทรดของเราเจอให้เราทำแบบนี้ซ้ำๆ ทุกวันครับ รวมถึงวนซ้ำตั้งแต่ข้อ 1 อ่าว ???? ทำไมต้องซ้ำข้อ 1 ใหม่ ง่ายๆเลยครับ เมื่อคนเราโตขึ้น เก่งขึ้นเป้าหมายก็ต้องเปลี่ยน และที่สำคัญครับ ตลาดขับเคลื่อนด้วยแรงซื้อขายจากคน จากสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งมันไม่มีอะไรตายตัว มันจะมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ เราต้องเปลี่ยนให้ทันกับตลาด เปิดใจที่จะเรียนรู้มัน เมื่อเราเข้าใจวิธีการเทรดอย่างแท้จริง เราค่อยหาความรู้เพิ่ม เพื่อเอามาต่อยอดกับระบบเดิม แต่ไม่ใช่ยังไม่เก่ง ก็ไปเอาระบบใหม่มา สุดท้ายตีกันตายครับ