วิเคราะห์กราฟตลาดทองคำรายสัปดาห์ 3 – 7 ก.ค. 66

ราคาทองคำลดลง 2.5% ในไตรมาศที่ 2 จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,072 ดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งเกิดจากความกังวลใจของนักลงทุนในภาคธนาคารของสหรัฐฯ

ราคาลดลง 2.5% ในไตรมาสนี้ ลดลงจากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,072 ดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งเกิดจากความกังวลใจของนักลงทุนในภาคธนาคารของสหรัฐฯ  ลงมาต่ำกว่า 1,900 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี ก่อนที่วันศุกร์จะมีแรงซื้อกลับขึ้นมาราคาปิดที่ 1919 และใน TF MN ปิดเป็นแท่งแดงเป็นลักษณะเสริมแรง Sell แม้ในเทรนด์หลัก (Primary Trend) ใน TF MN และ TF Week เป็นเทรนด์ขาขึ้น แต่ราคาได้เบรกในส่วนของเทรนด์ไลน์ลงมาได้แต่ราคาอาจมีโอกาส Side way ออกข้าง โดยก่อนปิดตลาด SPDR มีการขายออกเพิ่ม 2.6 ตัน ที่ราคา 1,919.30 ปริมาณถือครองทั้งสิ้น 921.90 ตัน โดยในเดือนที่ผ่านมามีการขายออกทั้งสิ้น 17.66 ตัน

Daniel Pavilonis นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโส RJO Futures  กล่าว “ผลกระทบจากวิกฤตการณ์ธนาคาร “ทำให้อัตราผลตอบแทนในรอบ 10 ปี ลดลงเพราะคิดว่า FED จะต้องหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย … แนวคิดดังกล่าวถูกโยนทิ้งไปพร้อมกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด (กดดันทองคำ)” เนื่องจากความแข็งแกร่งด้านธุรกิจ”  

นายโอเล แฮนเซน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank กล่าว “ตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐซบเซาในเดือนพฤษภาคม ในขณะที่ดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลที่ต้องการของ FED เพิ่มขึ้น 3.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจากระดับ 4.3% ของเดือนเมษายน ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังจากข้อมูลดังกล่าว เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่า FED มีความกังวลน้อยลงเล็กน้อยในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม ซึ่งลดโอกาสลงเหลือ 84% จาก 90% ก่อนหน้านี้” ส่งผลให้ใน TF Week แท่งเทียนจบในลักษณะของ Pin Bar