จับตาราคาน้ำมันหลังนักลงทุนกงวลการชะลอตัวเศรษฐกิจของจีน

US Oli ไม่ผ่านแนวรับ 67.01 ก่อนจะกลับไปพักฐาน Sideway ในกรอบ 67.01 – 70.06 สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 27 เซนต์ หรือ 0.4% สู่ระดับ 73.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในเวลา 0052 GMT. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 69.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรจากความกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะบั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจและอุปสงค์เชื้อเพลิงทั่วโลก ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในจีนก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นเช่นกัน

หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังลดลง 9.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 มิถุนายน ซึ่งเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.8 ล้านบาร์เรลในการสำรวจความคิดเห็นของรอยเตอร์

ด้านผู้นำของธนาคารกลางชั้นนำของโลกยืนยันอีกครั้งเมื่อวันพุธว่า พวกเขาคิดว่าจำเป็นต้องมีการเข้มงวดด้านนโยบายเพิ่มเติมเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แต่ยังเชื่อว่าพวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้โดยไม่ก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยโดยสิ้นเชิง

เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียได้นำเสนอโครงร่างของแผนการปฏิรูปครั้งใหญ่สำหรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในช่วงต้นเดือนนี้ และนำเสนอแผนดังกล่าวในฐานะรางวัลสำหรับประเทศต่าง ๆ ที่ลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันของตนเอง โดยแผนการปฏิรูปนี้จะเปิดโอกาสให้มีการปรับเพิ่มโควต้าการผลิตน้ำมันสำหรับประเทศในอ่าวอาหรับที่เป็นสมาชิกโอเปก ซึ่งรวมถึงซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และคูเวต แต่จะส่งผลลบต่อโควต้าการผลิตน้ำมันของประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่งรวมถึงไนจีเรียและแองโกลา ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องโควต้าการผลิตน้ำมันและตัวเลขฐานที่ใช้ในการคำนวณปริมาณการปรับลดการผลิต ถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหวภายในกลุ่มโอเปกมาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว เพราะว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันส่วนใหญ่ต้องการโควต้าที่สูงขึ้นสำหรับประเทศของตนเอง เพื่อที่ประเทศของตนจะทำเงินได้มากยิ่งขึ้นจากการส่งออกน้ำมัน