หลังจากที่เยฟกินี พริโกซิน หัวหน้ากองกำลังทหารรับจ้างแวกเนอร์ เข้าควบคุมเมืองทางตอนใต้ทางยุทธศาสตร์ของ Rostov และกองกำลังแวกเนอร์ทั้ง 25,000 คน เริ่มเดินขบวนติดอาวุธไปยังมอสโก ซึ่งล่าสุดได้มีการถอยทัพกลับไปยังฐานที่มั่นแล้ว หลังจากประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุส เข้าเป็นตัวกลางเจราให้ในเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมกับการแถลงของดมิทรี เปสคอฟ ทางการรัสเซียจะไม่ดำเนินคดีกับสมาชิกของแวกเนอร์ที่เข้าร่วมในการก่อกบฏ
สถานการณ์เกิดขึ้นจากการที่กองกำลังทหารรับจ้างแวกเนอร์ ต้องการขับไล่ ซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย โดยเยฟกินี พริโกซิน หัวหน้ากองกำลังทหารรับจ้างแวกเนอร์ อ้างว่าเสนาธิการทหารบก พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ได้สั่งให้เครื่องบินรบกองทัพรัสเซียทำการโจมตีขบวนกำลังพลของแวดเนอร์ และค่ายภาคสนามของแวกเนอร์ในยูเครนถูกโจมตีด้วยจรวด เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ และปืนใหญ่ ตามคำสั่งของเกราซิมอฟ หลังจากการประชุมกับรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งมีมติตัดสินใจทำลาแวกเนอร์ ซึ่งกองกำลังแวกเนอร์มีบทบาทสำคัญในสงครามรัสเซียยูเครน โดยประสบความสำเร็จในการยึดเมืองบัคมุตในยูเครนตะวันออก พร้อมเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพริโกซินต่อกองทัพรัสเซียมาโดยตลอดว่า ไร้ความสามารถ และไม่ส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธและเครื่องกระสุนมาให้ ซึ่งต่อมากระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของนายปริโกซิน และประณามว่าเป็นการยั่วยุด้วยข้อมูล ก่อนหน้านี้กลาโหมรัสเซียมีคำสั่งให้กองกำลังอิสระทั้งหมดที่ช่วยรบในยูเครน ต้องเซ็นสัญญายอมอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซียภายในวันที่ 1 ก.ค. นี้ แต่พริโกซิน ผู้นำของกองกำลังทหารรับจ้างแวกเนอร์ได้ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม
สิ่งที่น่าจับตามอง วลาดิมีร์ปูติน จะเอายังไงต่อดับรอยร้าวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะเห็นว่ากองกำลังทหารรับจ้างแวกเนอร์สามารถเข้ายึดเมือง Rostov ได้อย่างไม่ยาก แล้วถ้าอนาคตรวมกันหลายๆ กลุ่มเพื่อโค่นปูตินละ และสงครามในยูเครนจะเป็นยังไงต่อไป… กองกำลังทหารรับจ้างแวกเนอร์กลุ่มนี้รับจ้างปฎิบัติการในบริเวณขัดแย้งหลายแห่งเช่นยูเครน ซีเรีย ลิเบีย ซูดาน ซิมบับเว เวเนซุเอลา และอื่นๆ ซึ่งเหตุการณ์ที่รัสเซียยึดครองคาบสมุทรไครเมีย เป็นโอกาสให้กลุ่มนี้สร้างชื่อเสียงและก่อตั้งเป็นทางการขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2014